หุ้นกลุ่มน้ำมันหนุนตลาด ดันหุ้นไทยปิด +2.94 จุด โบรกฯ แนะจับตาประชุมนาโต้

หุ้นไทยปิดตลาด +2.94 จุด โบรกฯ ชี้ดัชนี SET INDEX แกว่งบวกจากแรงซื้อหุ้นพลังงานเข้าหนุนหลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น แนะจับตาผลประชุม NATO ในคืนนี้จะเพิ่มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอีกหรือไม่ พร้อมประเมินกรอบการลงทุนแนวต้านที่ 1,690 จุด และแนวรับที่ 1,670 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 24 มีนาคม 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +2.94 จุด หรือ +0.18% โดยปิดตลาดที่ 1,680.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 66,566.59 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนวันนี้หุ้นไทยแกว่งตัวกรอบแคบๆ ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,685.12 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,675.19 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 594 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 646 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,083 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า 2,833.27 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -651.47 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -29.64 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -2,152.15 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,018.10 ล้านบาท ปิดที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,767.99 ล้านบาท ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,317.81 ล้านบาท ปิดที่ 159.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
4.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,891.46 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,579.38 ล้านบาท ปิดที่ 231.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 231.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 2.21%
2.PTTEP ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.32%
3.CENTEL ปิดที่ 40.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 3.23%
4.COM7 ปิดที่ 42.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 3.01%
5.MEGA ปิดที่ 46.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.79%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 161.00 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 2.72%
2.CBG ปิดที่ 104.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 2.34%
3.RCL(XD) ปิดที่ 45.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 4.21%
4.AEONTS ปิดที่ 195.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.02%
5.DOHOME ปิดที่ 21.30 บาท ลดลง 0.90 บาท หรือ 4.05%

ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,297.50 จุด เพิ่มขึ้น 6.28 จุด หรือ 0.27% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 1,012.34 จุด เพิ่มขึ้น 3.73 จุด หรือ 0.37% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 629.62 จุด ลดลง -1.27 จุด หรือ -0.20%

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวแคบ และวอลุ่มการซื้อขายเบาบาง แต่ยังปิดบวกได้ตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ (กลุ่ม TIP) รวมถึงสิงคโปร์ และมาเลเซีย คาดว่าเม็ดเงินต่างประเทศ (Fund Flow) ไหลเข้า โดยวันนี้หุ้นขนาดกลางและเล็กปรับตัวขึ้นมาแต่ไม่ได้มีผลต่อภาพรวมดัชนีมากนัก

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานทั้งน้ำมันและถ่านหินปรับตัวขึ้นช่วยพยุงตลาดไว้ เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่เหนือ 120 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าบริษัท แคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (CPC) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างรัสเซียและคาซัคสถานไม่สามารถส่งออกน้ำมันจากโรงงานที่ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลดำ เนื่องจากได้รับความเสียหายจากพายุ และต้องใช้เวลาซ่อมแซมราว 1 เดือนครึ่ง

นอกจากนี้ ตลาดรอการประชุมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ที่มีสมาชิกหลักอย่างสหรัฐฯ และชาติยุโรปจะมีมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมหรือไม่ แต่คาดว่ายุโรปไม่ต้องการคว่ำบาตรเพิ่ม เนื่องจากราคาน้ำมันสูงจากเหตุการณ์ CPC ไม่สามารถส่งน้ำมันได้ หากคว่ำบาตรอีกจะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้น เป็นแรงกดดันเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก

ขณะที่แนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้มองว่าขึ้นอยู่กับการประชุม NATO คืนนี้ว่าจะมีมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมหรือไม่ โดยประเมินกรอบแนวต้านที่ 1,690 จุด และแนวรับที่ 1,670 จุด

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket