Bond Yield ยังพุ่ง นักลงทุนแห่เทขายหุ้นแบงก์ กด SET INDEX ปิดตลาดร่วง -4.23 จุด

หุ้นไทยปิดตลาดดิ่ง -4.23 จุด โบรกฯ ชี้ทิศทางดัชนีไหลลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลัง Bond Yield ถีบตัวขึ้นสูงอีกครั้ง กอปรกับกังวลเฟดจะเร่งการสิ้นสุด QE และขึ้นดอกเบี้ย กระทบ Sentiment ตลาดหุ้นและสินทรัพย์อื่นๆ ส่งผลให้นักลงทุนซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้แห่เทขายหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน มองกรอบดัชนีอาทิตย์หน้าเคลื่อนไหวแนวต้านที่ 1,660-1,665 จุด แนวรับ 1,635-1,640 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 21 มกราคม 2565 ปรับตัวลดลงกว่า -4.23 จุด หรือ -0.26% โดยปิดตลาดที่ 1,652.73 จุด มูลค่าการซื้อขาย 81,426.12 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนตั้งแต่เปิดตลาดดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน ซึ่งค่อยไหลลงและปิดตลาดในแดนลบ โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,655.42 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,641.86 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 514 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 484 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,231 หลักทรัพย์

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า บัญชี บล.ขายสุทธิกว่า -1,081.36 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,095.29 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า 1,293.76 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 882.89 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,567.89 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
2.AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,367.75 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,680.66 ล้านบาท ปิดที่ 38.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
4.GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,573.92 ล้านบาท ปิดที่ 81.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
5.BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,895.96 ล้านบาท ปิดที่ 130.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SINGER ปิดที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ 4.89%
2.JMT ปิดที่ 63.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ 3.66%
3.KKP ปิดที่ 68.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 3.03%
4.ADVANC ปิดที่ 222.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.45%
5.INTUCH ปิดที่ 77.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 0.97%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.GPSC ปิดที่ 81.50 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 3.55%
2.RCL ปิดที่ 43.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 4.44%
3.BBL ปิดที่ 130.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.52%
4.SCC ปิดที่ 378.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 0.53%
5.RBF ปิดที่ 19.40 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 7.18%

ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,251.59 จุด ลดลง -6.47 จุด หรือ -0.29% ดัชนี SET50 ปิดที่ 987.06 จุด ลดลง -3.38 จุด หรือ -0.34% ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 661.85 จุด ลดลง -0.87 จุด หรือ -0.13%

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond yield) 10 ปี เมื่อคืนนี้กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง กังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเร่งการสิ้นสุดการทำ QE เร็วขึ้น และเร่งการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย กดดันตลาดหุ้น รวมถึงสินทรัพย์อื่นๆ ที่ปรับตัวดลงตามกันในวันนี้

ขณะเดียวกัน ยังมีแรงขาย Sell on fact หุ้นกลุ่มแบงก์ออกมากดดัน หลังจากประกาศผลการดำเนินงานออกมาวันนี้อีกหลายธนาคาร เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันดัชนี แม้ว่าจะมีแรงซื้อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดประเทศเข้ามาหนุนอยู่บ้างก็ตาม

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้ามีโอกาสรีบาวนด์และแกว่งตัวไซด์เวย์ เพื่อรอติดตามความชัดเจนของการประชุมเฟด โดยให้แนวต้าน 1,660-1,665 จุด แนวรับ 1,635-1,640 จุด